แชร์ประสบการณ์การทำ REAL ID Card ของรัฐแคลิฟอร์เนีย ในอเมริกา

            วันนี้จะมาแชร์ประสบการณ์การทำ REAL ID Card ของรัฐแคลิฟอร์เนียค่ะ  

                  อันเนื่องมาจากมีเหตุจำเป็นต้องใช้ ID Card เพราะเหตุที่ต้องใช้เอกสารในการยืนยันตัวตนกับเวปไซต์นึงซึ่งสำคัญมากเกี่ยวกับเงินๆทองๆ เพื่อให้ทางแอดมินแก้ไข ยกเลิก 2 Factor Authentication  ซึ่งทางเวปไซต์ไม่ยอมรับเอกสาร Green Card 10 ปี ที่มีอยู่ และเพิ่งได้รับจาก USCIS สดๆร้อนๆ ทางเวปไซต์ยอมรับเอกสาร 2 ตัว คือ Driver License, ID Card  แต่เราไม่มีทั้ง 2 ตัว เลยต้องไปทำ ID Card ซึ่งน่าจะทำง่ายกว่า Driver license 

              ดังนั้นจึงต้องเริ่มหาข้อมูล ก็ไม่พ้นกูเกิ้ลละค่ะ โดยเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ : 

www.dmv.ca.gov

              ขอสรุปเป็นขั้นตอนๆละกันค่ะดังนี้

              1.  ต้องทำการนัดหมายก่อน แนะนำให้ทำการนัดหมายไปก่อนโดยโทรไปหรือออนไลน์ ตามที่ทางเวปไซ์ได้บอกไว้ ใครอยู่ใกล้ Local DMV ไหนก็นัดหมาย DMV นั้น เช่นของเราอยู่ West Hollywood และ Hollywood แนะนำให้ถามก่อนว่ารับทำ Real ID Card ไหม 

Find your Local Field Office

Field Office

Appointment

Office Visit Appointment
     

                   ตอนเราไปทำไม่ได้ทำการนัดหมายก่อน ไปถึงแถวยาวมากค่ะ และไปผิดที่ด้วย ที่แรกที่ไป ไม่รับทำ Real ID Card เลยต้องไปอีกที่นึงซึ่งดีที่ไม่ไกลกันมาก ไม่นั้นต้องไปใหม่วันหลัง


                2. เอกสารที่ต้องเตรียมไป 

                    1. เอกสารแสดงตัวตนของคุณ "Provide proof of identity" เช่น Certified U.S. birth certificate, valid U.S. passport, employment authorization document, permanent resident card or foreign passport with an approved form I-94. 
                 Note: laminated documents will not be accepted (except a permanent resident card that can be laminated) 

                  เรามี permanent resident card 

                     2. เอกสารที่แสดงว่าอาศัยอยู่ตามเมืองนั้นๆ "Show a California residency document" เช่น utility bills ใครมีใบแจ้งหนี้บิลต่างๆ สามารถใช้ได้หมด

                  เรานำไป 2 แบบคือ เอกสารใบแจ้งหนี้บัตรเครดิต และ ใบจ่ายเงินของบริษัทที่ทำงาน(ซึ่งแสดงที่อยู่ปัจจุบัน)  สุดท้ายใช้ ใบจ่ายเงินของบริษัทที่ทำงาน 

                    3. เอกสารที่แสดงหมายเลข Social Security Number "Present proof of your Social Security number" เช่น SSN Card ( Social Security Number ) , W-2

ถ้าคุณเปลี่ยนชื่อ หรือหย่า หรือชื่อไม่ตรงกันกับข้อ 1 ให้นำเอกสารนี้ไปด้วย

                   4. Fee $30 with Cash or Debit Card  
                       
                      จ่ายค่าธรรมเนียมด้วยเงินสดหรือเดบิตการ์ด เตรียมเงินสดไปนะค่ะ ถ้ามีเดบิตใช้ได้ ส่วนเราไม่มีทั้งเงินสดหรือเดบิตการ์ด เป็นเหตุเลย ต้องไปกดเงินตู้เอทีเอ็ม แล้วมาต่อแถวใหม่ แต่โชคดีที่ ได้แถวลัดขั้นตอน รอบ 2 ได้เรียกเร็ว  เพราะรอรอบแรกไป 3 ชม.ค่ะ ไม่รวมเวลาต่อแถวทีี่ไม่ได้ทำการนัดหมาย ซึ่งแถวนี้ยาวมากค่ะ ยาวตลอดเวลา   ถ้าต้องรออีก 3 ชม. เป็นลมแน่ๆ เพราะไม่ได้กินอะไรไปเลย แม้แต่กาแฟ เพราะว่าไปตั้งแต่ 8 โมงกว่า คิดว่าไม่นานคงเสร็จ เป็นงัยละ ปาไป 3 ชม.

                   5. แบบฟอร์ม  ที่ต้องกรอก ทาง DMV ไม่มีให้กรอกไปก่อน ต้องไปรับตอนที่ต่อแถวรับคิวและตรวจเอกสาร 

                       ใช้เวลาในการกรอกไม่นาน ข้อมูลที่ต้องกรอกก็เป็นข้อมูลทั่วไป มีทั้งหมด 2 หน้า อย่าลืมพลิกไปอีกหน้าด้านหลังด้วยนะค่ะ เราไม่ได้กรอกด้านหลัง เลยตอนที่เจ้าหน้าที่เรียกต้องเสียเวลาไปกรอกอีก เราว่าเราก็อ่านดีแล้วนะว่าไม่เกี่ยวกับที่ต้องกรอก แต่ผิดพลาดจนได้ค่ะ  


               3.  ขั้นตอนการดำเนินการทำ Real ID Card


                    ไปถึงที่ DMV ต่อแถว ใครมี Appointment  ก็ดีมากๆ เพราะแถวจะสั้นมาก ไม่ต้องรอนาน ก็จะสามารถร่นระยะเวลารอคอยได้อีกเยอะ เราไม่ได้ทำการนัดหมายเลยรอนานเกือบ 40 นาที แค่รอแถวรับคิวแบบฟอร์ม และตรวจเอกสาร 

                     ได้คิวแล้ว หมายเลขคิวทาง DMV ใช้ชื่อย่อของชื่อและนามสกุล และหมายเลข 4 ตัวสุดท้ายของเบอร์โทรศัพท์ เช่น NT 0496 
                      ก็ทำการกรอกแบบฟอร์มที่ เจ้าหน้าที่ DMV ให้มา พอกรอกเสร็จก็นั่งรอ หาอะไรทำรอไป หรือใครจะไปทำธุระที่ไหนไม่ไกลมาก อย่างหาอะไรทานก็ยังทัน เพราะทาง DMV แจ้งไว้ตรงป้ายเคาร์เตอร์ว่า Waiting Time 3 ชม.

                      พอได้คิวเรียกแล้วก็ไปตามช่อง ที่เรียก เช่น  NT 0496 Window 10  ขั้นตอนนี้ใช้เวลาไม่นานค่ะไม่ถึง 10  นาทีก็เสร็จ ขั้นตอนก่อนสุดท้ายคือ จ่ายเงิน  $30  เสร็จแล้วจะได้รับใบเสร็จมา เจ้าหน้าที่ให้เราตรวจสอบความถูกต้อง ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ 

                      ขั้นตอนสุดท้าย คือ ถ่ายรูป ซึ่งแถวไม่ยาวเลย เร็วมากค่ะ หลังจากนั้นก็เรียบร้อย กลับบ้านไปรอรับบัตร ซึ่งทาง DMV กำหนดไว้ 2 อาทิตย์


                 **** หากได้บัตรมาแล้ว จะเอาไปยืนยันตัวตนกับทาง Coinbase จะได้เข้าใช้ได้ซะที จะได้นำเงินออกมาได้ซะที *** ใครมี Coinbase อย่าสมัคร 2 Factor Authentication เลย หากมีปัญหามันยุ่งยากมาก หรือไม่อีกทางคือ ไม่ควรใช้ Coinbase  เป็น Wallet ในการรับการจ่ายเงินจากการลงทุนใดๆ ให้ใช้แค่ซื้อและขายก็พอ




                                                           อย่าลืมติดตามในตอนต่อไปค่ะ
                                                                                                                

                                                                                                    NT.














Comments

Popular posts from this blog

รีวิว/ Downtown Grand Hotel & Casino - Las Vegas Vacation Trip